เพิ่งอกหักพลาดแชมป์ไปเมื่อปีกลาย หลายคนหมายมั่นว่าป๋าจะกลับมาแก้มืออีกครั้ง โดยเริ่มติดอาวุธให้ทีมด้วยสองนักเตะฝีเท้าฉกาจ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กับชินจิ คากาวะ แม้จะเปิดฤดูกาลด้วยนักเตะส่วนใหญ่ที่ฟอร์มกระท่อนกระแท่น สลับกันโชว์ฟอร์มเด่นไม่กี่นัด รวมไปถึงแนวรับที่เปื่อยยุ่ยมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะคู่เซ็นเตอร์แบ็คหรือนายทวารผู้แพ้ลูกโด่ง มีเพียงฟาน เพอร์ซี คนเดียวที่ยิงสลุตช่วยให้ทีมกำชัยชนะมาได้เยอะในช่วงหลายๆ คนเดี้ยง และฟอร์มตก
จนมาถึงช่วงกลางค่อนมาทางท้าย ที่นักเตะส่วนใหญ่เริ่มเรียกฟอร์มกลับมา สวนทางกับการยิงประตูของ ฟาน เพอร์ซี ถ้าช่วงต้นฤดูกาลไม่ยิงตุนไว้แต้มที่นำแมนฯซิตี้อาจจะไม่ขาดแบบนี้หรืออาจจะตามหลังก็เป็นได้ ปีนี้เป็นปีที่แมนยูคว้าแชมป์ด้วยฟอร์มไม่แกร่งเท่าไหร่ หนำซ้ำผมยังคิดว่าโชคดีอีกด้วยที่หลังจากเรือคว้าแชมป์ไปนอนกอดได้หนึ่งปี
ผู้จัดการทีมรวมไปถึงบรรดาบอร์ดบริหารไม่ยอมทุ่มเงินเหมือนปีก่อนๆ เพื่อสร้างทีมต่อยอดความสำเร็จออกไป นักเตะหลายๆ คนที่ถูกโก่งค่าตัว เรือใบก็ถอยกรูดไม่สู้ราคา เหมือนกับไม่อยากทุ่มจ่ายอีกแล้ว นักเตะที่มีอยู่คงเพียงพอต่อการคว้าแชมป์อีกสมัย ซึ่งเป็นการคิดที่ผิด เพราะที่เห็นหลายๆ คนกว่าจะกลับมาติดเครื่องเข้าฟอร์มกระหายแชมป์ เวลาก็ล่วงเลยจนแต้มไม่อาจจะไล่ทันทีมจ่าฝูงอย่างแมนยูได้เลย แม้จะกำชัยชนะในการพบกันครั้งล่าสุด ที่อาจจะเป็นตัวแปรต่อการคว้าแชมป์ แต่ทุกอย่างก็สายเกินไป
คิดดูนะครับ ถ้าตอนตลาดซัมเมอร์ยังไม่ปิด เรือใบทุ่มสุดตัวคว้า เอเด็น อาซาร์ กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี มาสู่ทีม ป่านนี้เรือสำเภาคงแล่นฉิวยากแก่การไล่ตามไปแล้ว แต่ทุกอย่างผิดพลาดเพราะความชะล่าใจ ที่คว้าแชมป์มาครองได้ด้วยชุดนั้นทั้งๆ ที่เบียดกันเพียงประตูได้เสียแค่นั้นเอง ส่วนเชลซีเองก็พบเจอปีที่เปลี่ยนแปลงบ่อยในตำแหน่งผู้จัดการทีม ซึ่งปีหน้าก็ต้องเปลี่ยนคนคุมทีมอีกครั้ง มาตรฐานในการเล่นของนักเตะจึงไม่ต่อเนื่องมีผลต่อการลุ้นแชมป์ทันที ตอนนี้ลุ้นเบียดที่สามกับ อาร์เซน่อล และสเปอร์สต่อไป
ปีนี้ป๋าพาทีมกลับมาด้วยการคว้าแชมป์สมัยที่ 20 แม้จะดูกระท่อนกระแท่นไปบ้างในบางช่วง จนเหล่าแฟนๆ ในประเทศไทยตั้งคำถามกันว่า “ป๋าหมดมุขแก้เกมส์ หรือกระตุ้นลูกทีมแล้วหรือ” ซึ่งคำตอบคงปรากฏออกมาเรียบร้อย ไม่ว่าจะลีลากระชากไม่เกรงใจวัยของ ไรอัน กิ๊กส์ ที่ยังเข้มขลังในตำแหน่งปีกเสมอ ไมเคิล คาร์ริก ผู้เป็นห้องเครื่องที่ทีมจำเป็นต้องมีหลังจากกลับมาสู่ฟอร์มเดิมอีกครั้ง ยิ่งเมื่อได้พาร์ตเนอร์คู่กลางที่ไม่ใช่ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ หรือ พอล สโคลส์ การเล่นจึงเริ่มดีวันดีคืน และคำถามคงมีอีกครั้งว่าป๋าจะพาทีมคว้าแชมป์ได้อีกครั้งหรือไม่ แม้นักเตะ
หลายๆ คนจะมีเครื่องหมายคำถามติดที่ตัวว่าจะอยู่ต่อหรือไป ทั้ง หลุยส์ นานี่, แอชลีย์ ยัง, อันแดร์สัน, พอล สโคลส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ฮาเวียร์ เอร์นันเดซ หรือแม้กระทั่งตัว เวย์น รูนีย์ เอง
แต่สิ่งที่พอจะชื่นใจอยู่บ้างในปีหน้าคือ การที่ฟาน เพอร์ซี ยังอยู่ในช่วงท็อปพีคต่อเนื่อง รวมไปถึงการปรับตัวของคากาวะ ที่เริ่มเล่นได้ดีขึ้นหลังจากมีอิสระมากกว่าเดิมในตำแหน่งตัวรุกกึ่งริมเส้น หรือจะเป็นการปรับตำแหน่งใหม่ของรูนีย์ ที่ถอยมาเชื่อมแดนกลางในปลายๆ ซีซั่นนี้ แม้จะเริ่มต้นบทบาทใหม่ด้วยการเล่นที่ไม่แน่นอน แต่การครองบอล แรงปะทะ รวมไปถึงการวางบอลยาวข้ามแนวรับคือจุดเด่นที่รูนีย์งัดออกมาโชว์ในปีนี้ แม้จะมีการจ่ายบอลหรือจังหวะจับบอลที่ผิดพลาดไปบ้าง แต่ต้องยอมรับเลยว่าฟอร์มของรูนีย์ในแดนกลางตอนนี้ดูดีกว่าอันแดร์สัน เฟล็ท เคลฟ หรือแม้แต่สโคลส์ ปีหน้าป๋าแกคงจับรูนีย์มาเล่นกลางตัวรุกบ่อยกว่าเดิมแน่ๆ ถ้ายังไม่ปล่อยออกจากทีมนะ รวมไปถึงคากาวะที่อาจจะได้ปักหลักตัวจริงถาวร ลงเป็นสามประสานเคียงข้าง ฟาน เพอร์ซี โดยมีคาร์ริก คุมจังหวะอยู่ด้านหลัง แนวรับอาจจะได้คู่หูภูผาหินคู่ใหม่อย่าง ฟิล โจนส์ และ จอนนี อีแวนส์ โดยอาจจะยังมีกัปตันเซอร์บิเนเตอร์คอยสั่งการอยู่ต่อไป
ต่อจากนี้สิ่งที่แฟนๆ คาดหวังคือ นักเตะฝีเท้าฉกาจสักหนึ่งคนเพื่อมาต่อยอดระบบ และความสำเร็จให้ทีมก้าวต่อไป เพื่อโอกาสคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ยังเป็นที่โหยหาของป๋า และเหล่าแฟนๆ รวมไปถึงพวกดาวรุ่งที่ต้องดึงเข้าสู่ทีมเพื่อทดแทนแข้งวัยเก๋าในอนาคตต่อไป…
Akillis
2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC